วันเสาร์ที่ 13 มิถุนายน พ.ศ. 2552

๔. ศาสตร์งมงาย

ในทัศนะของชาวบ้านที่มีการศึกษาแบบครึ่งครึ่งกลางกลาง มักจะมองว่าโหราศาสตร์เป็นวิชางมงายไร้ค่า มีแต่คนหลงหรือไม่เต็มบาทเท่านั้นนิยมศึกษา คนฉลาดอย่างเขาไม่เคยสนใจ ทั้งนี้เขาอาจมีประสบการณ์ของหมอดูหลอกเอาเงินค่ายกครู ทำนายเท็จ โมเม ขี้ตู่ ไร้หลักฐานที่น่าเชื่อถือ มาก่อน ซึ่งในทุกวงการย่อมมีทั้งคนดี คนเลว ปะปนกันไป เมื่อมีประสบการณ์ที่เลว ๆ ก็ย่อมมีมุมมองที่ติดลบอย่างช่วยไม่ได้ (เจ็บฝังใจ)
ในศาสนาพุทธเองได้เคยกล่าวถึงโหราศาสตร์ไว้ว่า เป็นศาสตร์ที่ไม่เอื้อต่อการวิมุติหลุดพ้น แต่จะทำให้ผู้ศึกษาหลงใหล หมกจม มัวเมาในพลังอำนาจแห่งดวงดาวจนถึงกับทำให้ ลืมวิถีแห่ง สมาธิ วิปัสสนากรรมฐานไปสิ้น จึงไม่ได้รับโอการเห็นธรรม รู้ธรรมและหลุดพ้นจากอาสวะกิเลสไปได้ จึงทำให้หลายฝ่ายที่ไม่เข้าใจใน ศาสนาและโหราศาสตร์ มีทํศนเชิงลบว่า โหราศาสตร์เป็นเดรัจฉานวิชา โดยไร้หลักฐาน เหตุผล ที่มาที่ไป (ทำคนให้อ่อนปัญญา)
ในปัจจุบันมพระสงฆ์หลายรูปที่ศึกษา และค้นคว้าวิชาโหราศาสตร์จนถึงขั้นเชี่ยวชาญในระดับปรมาจารย์ หลายคนมุ่งทำนายเป็นแบบโหราศาสตร์ บางรูปก็เลยเถิดไปถึงเป็นโหราไสยศาสตร์ รับสะเดาะเคราะห์ขับไล่ราหู และพิธกรรมสัมพันธ์อื่น ๆ อีกมากมาย กลายเป็นนักไล่เคราะห์หามยามร้าย ขายธูปจุดเทียนบูชาไฟ ลืมทำวัตรเช้าเย็น แต่แท้จริงแล้วโหราศาสตร์มิใช่ศาสตร์แห่งเดรัจฉานวิชาเลย ด้วยเหตุผลดังนี้
1. โหราศาสตร์ในราชสำนักมีมาแต่โบราณกาล ในประเทศแถบทวปเอเซียตะวันออกเฉียงใต้ทั้งหมด มีการกำหนด ฤกษ์ยาม พิธี ตั้งแต่ประกาศสงคราม เปิดอาคารสถานที่ โดยมีโหรหลวง หรือพระยาโหราธิบดีในตำแหน่งเจ้ากรมโหร ปัจจุบันก็ยังมีพราหมณ์ หรือปุโรหิตอยู่รับใช้ในหลวงมาตลอด
2. พระสงฆ์ผู้ใหญ่ เช่น สมเด็จพระสังฆราช(อยู่ ญาโนทัย มหาเถระ เปรียญ 9) เจ้าคุณพระราชาคณะองค์สำคัญ ๆ ยังศึกษาต่อเรื่องนี้ ถือว่าพระองค์เป็นปราชญ์ด้านนี้อยู่ นอกจากนี้ยังมีพระทรงสมณศักดิ์อื่น ๆ หลายท่านท่มความเชื่อถือ การให้ฤกษ์ ปลุกเสก หล่อพระตลอดมา
3. พ่อค้า คหบดี เศรษฐี หลายคน ต้องหาฤกษ์เปิดอาคารสถานท่จากโหรผู้ชำนาญ หลายคนได้ฤกษ์ผิดประกอบธุรกิจผิดพลาดพลั้งเผลอจนธุกิจไฟไหม้ เสียหาย หรือได้รับผลกระทบในเชิงลบอื่น ๆ มากมาย
4. แพทย์ ทันตแพทย์ บัณฑิตหลายท่านยังศึกษาและได้พบ พิสูจน์ ความจริง และให้คำรับรองว่าเป็นศาสตร์ท่เชื่อถือได้ ถ้าไร้สาระงมงายจิง บัณฑิต คนฉลาดเหล่านี้ คงไม่สนใจและไม่เสียเวลามาศึกษาเรียนรู้เป็นแน่ และมีหลักการน่าเชื่อถือกว่าไสยศาสตร์
5. ฤกษ์ยามดี ทำความดี จริงจังยั่งยืน ก้าวหน้า แต่ถ้าฤกษ์ดี ทำชั่ว ผลกรรมชั่วจะสนอง ไม่เชื่อไม่ควรดูหมิ่น

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น