วันอาทิตย์ที่ 14 มิถุนายน พ.ศ. 2552

คู่ดาว

ในโหราศาสตร์มีดาวคู่ดวงที่มีทั้งเสริมพลัง และทอนพลังกัน และมีบทบาทอย่างยิ่งในการพยากรณ์ดวงชาตาชีวิตของผู้คนที่ผู้ศึกษาศาสตร์พยากรณ์ควรเข้าใจและจดจำให้ขึ้นใจและบูรณาการเข้ากับคำพยากรณ์อย่างเหมาะสมกับกาลและเทศะของบริบทแห่งการพยากรณ์ได้แก่ คู่มิตร คู่ศัตรู และคู่สมพล

พระเคราะห์ ทั้ง ๘ ดวง นอกจากจะมีคู่ธาตุแล้ว ก็ยังมีคู่มิตร คู่ศัตรู และคู่สมพลอีกด้วย ซึ่งได้จะนำเสนอโดยย่อ ทั้งนี้ผู้สนใจอาจกำหนดจำคำกลอนเพื่ออำนวยความสะดวกต่อการจำก็ได้ ดังนี้...

ดาวคู่มิตร มีบทกลอนว่า

อาทิตย์เป็นมิตรกับครู

จันทร์โฉมตรูพุธนงเยาว์

ศุกร์ปากหวานอังคารรับเอา

ราหูกับเสาร์เป็นมิตรต่อกัน

กล่าวคือ อาทิตย์+พฤหัส (ครู)... จันทร์+พุธ.... ศุกร์+อังคาร.... ราหู+เสาร์....

.....

ดาวคู่ศัตรู มีบทกลอนว่า

อาทิตย์ผิดใจกับอังคาร

พุธอันธพาลรังควานราหู

ศุกร์กับเสาร์เป็นเสี้ยนศัตรู

จันทร์กับครูเป็นอริต่อกัน

กล่าวคือ อาทิตย์+อังคาร.... พุธ+ราหู.... ศุกร์+เสาร์.... จันทร์+พฤหัส (ครู)....

ถ้าว่าพระเคราะห์ที่เป็นมิตรกันก็จะเกื้อหนุนกัน ถ้าเป็นศัตรูก็จะทำลายล้างกัน... ซึ่งในสำนวนไทยที่ได้ยินกันประจำก็เช่น พระศุกร์เข้าพระเสาร์แทรก ..นั่นคือ คู่ศัตรูมาเจอกัน ก็จะทำให้เจ้าของดวงชตามีปัญหาในชีวิต...ประมาณนี้

ความเป็นมิตรหรือศัตรูของพระเคราะห์เหล่านี้ แตกต่างกันไป ซึ่งผู้เขียนค่อยนำมาเล่าในโอกาสต่อไป....

.......

ดาวคู่สมพล คือพระเคราะห์ที่เอากำลังบวกได้ ๒๗

คู่ สมพลนี้ ผู้เขียนไม่เคยเจอบทกลอน แต่รู้กันทั่วไปว่า ถ้านำกำลังของดวงดาวทั้งสองมาบวกกันได้ ๒๗ ก็จัดเป็น คู่สมพล ซึ่งมี ๔ คู่ ดังต่อไปนี้...

อาทิตย์ (๖) + ศุกร์ (๒๑) = คู่สมพล (๒๗)

จันทร์ (๑๕) + ราหู (๑๒) = คู่สมพล (๒๗)

อังคาร (๘) + พฤหัส (๑๙) = คู่สมพล (๒๗)

พุธ (๑๗) + เสาร์ (๑๐) = คู่สมพล (๒๗)

เลข ๒๗ นี้มาจากที่ใด ?..

คำอธิบายก็ต้องย้อนกลับไปที่เดิม ซึ่งผู้แรกสนใจหรือผู้ต้องการทบทวนก็กลับไปดูที่ ฉันคือศูนย์กลางเอกภพ และ ฉันเป็นส่วนหนึ่งของโลก ได้อีกครั้ง.. จะอธิบายเพิ่มเติมย่อๆ..

เมื่อ โลกเป็นศูนย์กลางเอกภพแล้ว และแบ่งออกไปเป็น ๑๒ ส่วน ก็จะได้ ๑๒ ราศี...ซึ่ง ๑๒ ราศีเหล่านี้จะมีพระเคราะห์แต่ละดวงเป็นเจ้าเรือนสถิตอยู่ ...ส่วนที่ไกลออกไปนั้น ก็ใช้โลกเป็นศูนย์กลางอีกครั้ง แล้วก็แบ่งเป็น ๒๗ ส่วน..

๒๗ ส่วนเหล่านี้ จะมีกลุ่มดาวประจำอยู่แต่ละส่วน เมื่อผ่านส่วนใดก็เรียกว่า ฤกษ์ นั้นๆ เช่น กฤติกาฤกษ์ คือ กลุ่มดาวลูกไก่ ฯลฯ ซึ่งกลุ่มดาวเหล่านี้ก็มีอิทธิพลต่อดวงชตาเช่นเดียวกัน...

สรุปว่า เลข ๒๗ มาจากนี้... ซึ่งดาวพระเคราะห์คู่ใด ถ้าได้ คู่สมพล ก็หมายถึง ความสมบูรณ์ เพียบพร้อม เต็มเปี่ยม...ทำนองนี้

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น